วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บริษัทแอนเทอร์ จำกัด แนะนำบทความรู้เท่าทันอันตราย...การใช้สารเคมีกำจัดแมลงในบ้าน



              สวัสดีครับท่านผู้อ่าน บริษัทแอนเทอร์ จำกัด  ขอเสนอบทความที่มีประโยชน์มาก ๆ สำหรับท่านผู้อ่าน   ซึ่ง คุณปรียานุช  สายสุพรรณ์ ได้เขียนถึง "รู้เท่าทันอันตราย..การใช้สารเคมีกำจัดแมลงในบ้าน"  บริษัทแอนเทอร์ จำกัด เห็นว่าเป็นบทความที่ท่านผู้อ่านควรรู้  ลองอ่านดูนะครับ



รู้เท่าทันอันตราย...การใช้สารเคมีกำจัดแมลงในบ้าน
          หนู แมลงสาป หรือแมลงต่าง ๆ อีกหลายชนิดที่เราไม่พึงประสงค์ที่จะให้เข้ามาอยู่อาศัยในบ้านร่วมกับเรา เนื่องจากแมลงต่าง ๆ เหล่านี้นำมาซึ่งพาหะของเชื้อโรคทำให้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย และทำให้มีอาการเจ็บป่วย  จนบางครั้งมีอาการผิดปกติกับร่างกายและต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อโรคเหล่านั้น     หากจะมองในอีกมุมคงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้  จนบางครั้งต้องยอมรับสภาพกับแมลงต่างๆ เหล่านั้น  แต่เราในฐานะผู้อาศัยอยู่ในบ้านคงต้องหาวิธีการที่จะทำให้แมลงอาศัยอยู่ในบ้านเราให้น้อยที่สุด    เช่น ต้องทำความสะอาดบ้านเรือนอยู่เสมอ  นอกจากนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผู้เขียนคิดว่าเป็นทางเลือกของใครหลายๆ    คนในการกำจัดแมลงในบ้านคือการใช้สารเคมีกำจัดแมลง
          ปัจจุบันมีการใช้สารเคมีกำจัดแมลงกันอย่างแพร่หลาย  เนื่องจากเป็นวิธีที่สะดวกและให้ผลรวดเร็ว    นอกจากการใช้สารเคมีกำจัดแมลงกับผลผลิตทางการเกษตรแล้ว ยังมีการใช้สารเหล่านี้ในบ้านพักอาศัยกันเป็นจำนวนมาก เพื่อใช้กำจัดแมลงในบ้านเรือน รวมทั้งในปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตได้มีการเติมสารต่างๆ เช่น กลิ่นดอกไม้ กลิ่นผลไม้ กลิ่นหอมต่างๆ  ลงไปในสารเคมีกำจัดแมลง    จนทำให้ลืมไปว่าสารเคมีเหล่านี้คือสารพิษที่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน   ทำให้การใช้สารเคมีกำจัดแมลงดังกล่าวไม่ถูกวิธีก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ   ดังนั้น จึงควรศึกษาผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาใช้  วิธีการใช้ที่ถูกต้องรวมทั้งศึกษาพิษของสารเคมีดังกล่าว
สารสำคัญในสารเคมีกำจัดแมลง
          1. สารกลุ่มออร์การ์โนคลอรีน (Organochlorine)    เป็นสารกำจัดแมลงที่มีพิษค่อนข้างสูง  สลายตัวได้ยาก  ทำให้เกิดการตกค้างในสิ่งแวดล้อมเป็นเวลานาน   ซึ่งหลายประเทศในโลกรวมทั้งประเทศไทยได้ห้ามใช้สารในกลุ่มนี้  เช่น คลอเดน (chlordane) พบในยากำจัดปลวกและลินเดน (lindane)  พบในยากำจัดเหา
          2. สารกลุ่มออร์การ์โนฟอสเฟต (Organophosphate) เป็นสารกำจัดแมลงที่สามารถออกฤทธิ์ในการกำจัดแมลงได้ดี  มีประสิทธิภาพสูง และมีข้อดีกว่าสารกำจัดแมลงในกลุ่มออร์การ์โนคลอรีน   คือ สามารถย่อยสลายได้      โดยสิ่งมีชีวิตและมีการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าแต่มีความเป็นพิษค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสารกำจัดแมลงกลุ่มคาร์บาเมท  เช่น คลอไพริฟอส (chlorpyrifos)    ไดโควอส (dichlovos) และ DDVPพบในสเปรย์กำจัดยุงและแมลงสาบ สเปรย์กำจัดปลวก มด มอด ส่วนมาลาไธออน (malathion) พบในยากำจัดหมัด
          3. สารกลุ่มคาร์บาเมท (Carbamate)  เป็นสารกำจัดแมลงที่เป็นพิษต่อมนุษย์ค่อนข้างต่ำ  สลายตัวได้เร็ว      จึงตกค้างในสิ่งแวดล้อมได้น้อยและสามารถใช้กำจัดแมลงได้เทียบเท่าสารกำจัดแมลงกลุ่มออร์การ์โนฟอตเฟต เช่น โปรพ็อกเซอร์ (Propoxur)    หรือที่รู้จักกันในชื่อทางการค้าคือไบกอน คาร์บาริล (carbarly) ชื่อทางการค้าคือเซฟวินและคาร์โบฟูแรน (carbofuran) ชื่อทางการค้าคือฟูราดาน  พบในสเปรย์กำจัดยุง
          4. สารกลุ่มไพรีทรอยด์ (Pyrethroid)    เป็นสารกำจัดแมลงที่สังเคราะห์ขึ้นเลียนแบบธรรมชาติมีความไวทางชีวภาพสูง  ทำให้ไม่มีพิษสะสมในร่างกาย    จึงเกิดพิษต่อคนและสัตว์น้อยมาก   เช่น เฟนวาเลท (fenvalate)    พบในยากำจัดปลวก ไซเปอร์เมทริน (cypermethrin) และเดลต้าเมทริน (deltamethrin) พบในชอคก์ขีดกำจัดแมลงคลาน  สเปรย์กำจัดมด เป็นต้น
สารเคมีกำจัดแมลงสามารถเข้าสู่คนได้ 3 ทาง คือ
          ทางปาก  โดยการกิน  การดื่ม  หรือโดยอุบัติเหตุ     ทางการหายใจ โดยการสูดดมไอของสาร ซึ่งสารเคมีกำจัดแมลงบางชนิดอาจมีฤทธิ์กัดกร่อนทำลายเยื่อจมูกและหลอดลมได้      ทางผิวหนัง โดยการสัมผัสหรือจับต้องสารเคมีกำจัดแมลง   ทำให้เกิดการดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังซึ่งหากผิวหนังมีบาดแผลจะทำให้สารพิษดูดซึมสู่ผิวหนังได้ดี โดยเฉพาะสารพิษที่อยู่ในรูปของเหลว สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ดีและรวดเร็วกว่ารูปแบบอื่น
อาการที่เกิดจากการแพ้สารเคมีกำจัดแมลง
          อ่อนเพลีย  มึนงง ปวดศรีษะและเมื่อยตามตัว แน่นหน้าอก หายใจหอบ มีอาการสั่น กล้ามเนื้อกระตุก   มองเห็นภาพได้ลางเลือน ม่านตาหรี่น้ำลายและเหงื่อออกมาก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง  อาจถ่ายอุจจาระและปัสสาวะโดยกลั้นไม่อยู่   ถ้ามีอาการรุนแรงอาจชัก และหมดสติอาจหยุดหายใจ และถึงตายได้
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
          ให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากบริเวณที่มีสารเคมีกำจัดแมลง   ถ้าสารเคมีกำจัดแมลงถูกผิวหนังให้ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนสารเคมีกำจัดแมลงออกรีบชำระร่างกายของผู้ป่วยให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่   อย่าขัดถูผิวหนังเพราะจะทำให้สารพิษซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ง่าย  ถ้าสูดดมสารเคมีกำจัดแมลงเข้าไปให้นำผู้ป่วยไปพักผ่อนในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและอบอุ่น    คลายเสื้อผ้าให้หลวม  ถ้าสารเคมีกำจัดแมลงเข้าตาให้ล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆครั้ง นานประมาณ 15 นาที  ห้ามใช้ยาล้างตา ในกรณีที่สารเคมีกำจัดแมลงเข้าปากให้บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง  ถ้าผู้ป่วยกินสารเคมีกำจัดแมลงเข้าไปให้ปฏิบัติตามคำแนะนำในฉลาก หรือทำให้อาเจียนแต่ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่หมดสติและเป็นโรคหัวใจ การทำให้ผู้ป่วยอาเจียนโดยให้ผู้ป่วยรับประทานไข่ขาวดิบ ขนาดที่ใช้ คือ เด็ก 4 ฟองและผู้ใหญ่ 8 ฟอง  และรีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันทีพร้อมด้วยภาชนะบรรจุ  และฉลากวัตถุมีพิษนั้น
การปฏิบัติตนเพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ผู้อยู่อาศัย และสัตว์เลี้ยง
          อ่านฉลากข้างภาชนะบรรจุให้ละเอียดทุกครั้งก่อนใช้ ควรระมัดระวังในการเทหรือรินสารเคมีกำจัดแมลง เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสทางผิวหนังระหว่างฉีดพ่นควรสวมเครื่องป้องกันตัว  เช่น สวมเสื้อผ้าที่มิดชิด ใส่ถุงมือหรือใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูก อย่าฉีดพ่นในห้องที่มีเด็ก ผู้ป่วยผู้อยู่อาศัยและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งในบริเวณที่มีอาหารและบริเวณที่มีเปลวไฟ   หากจำเป็นต้องฉีดพ่นในห้องที่มีอาหารต้องปิดครอบอาหารให้มิดชิด หรือนำออกนอกบริเวณที่ใช้สารเคมี   อย่าฉีดพ่นสารเคมีกำจัดแมลงภายนอกขณะที่ลมแรงหรือมีฝนตก  ควรเก็บสารเคมีกำจัดแมลงที่ใช้ในบ้านให้ห่างไหลจากเด็กหรือเก็บไว้ในตู้ล๊อคที่ปลอดภัย   หลังฉีดพ่นควรปิดห้องไว้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง      เพื่อให้ละอองของสารเคมีกำจัดแมลงที่กระจายในอากาศบริเวณนั้น
เจือจางลง แล้วทำความสะอาดพื้นห้องเพื่อกำจัดสารเคมีที่ตกตามพื้น ควรล้างมือ ล้างหน้า   อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้งหลังการฉีดพ่นสารเคมีกำจัดแมลง  สำหรับภาชนะบรรจุที่ใช้หมดแล้วควรฝังดิน
          ด้วยเรื่องราวที่ผู้เขียนนำรายละเอียดมาฝากผู้อ่านทั้งหมดนี้  คงจะเป็นเรื่องราวที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องใช้สารเคมีภายในบ้านเรือนเป็นประจำ อาจจะเป็นเรื่องที่เคยได้ยิน และเคยปฏิบัติกันเป็นประจำอยู่แล้ว   แต่เพื่อเป็นการย้ำเตือนและเป็นการเฝ้าระวัง ไม่ให้อันตรายจากการใช้สารเคมีเกิดขึ้น  และเพื่อให้ทราบถึงโทษของสารเคมีที่เราใช้กันด้วยความเคยชิน
          สุดท้ายการใช้สารเคมีไม่ว่าจะเป็นในแปลงของเกษตรกร หรือจะนำมาใช้เพื่อกำจัดแมลงภายในบ้านเรือน  กรมวิชาการเกษตรได้มีนโยบาย และเน้นย้ำเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอดว่า  การที่จะเลือกใช้สารเคมีอยากให้เป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะใช้    เนื่องจากการใช้สารเคมีจะเกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และที่สำคัญที่สุดจะส่งผลถึงตัวผู้ใช้นั่นคือเกษตรกรนั่นเอง        การที่จะเลือกใช้สารเคมีเพื่อการใดก็ตาม  เราควรศึกษาให้ดีถึงข้อควรปฏิบัติ  เพื่อที่เราจะได้เป็นผู้ที่เรียกได้ว่า เป็นผู้ที่รู้เท่าทันอันตราย... จากการใช้สารเคมี
อ้างอิงภาพจากอินเตอร์เน็ต
http:// forum.thaidvd.net/lofiversion/index.php/t67486.html
http:// www.nanagarden.com/picture/product/400/132842.jpg
hyyp:// www.nanagarden.com/picture/product/400/132840.jpg
http:// r3.static.fsanook.com/weblog/entry/0/1168/terroAnt1box.jpg
http:// www.khaosod.co.th/view_resizing_images.php?filename=newsphoto/khaosod/2010/08/for09290853p1.
          jpg&width=360&height=360
http:// www.quinl.com/productImages/UploadImages?EJLWx5inewinsecticide.jpg
http:// 1.bp.blogspot.com/_1poRCgh9Zko/S01ZinDhII/AAAAAAAAAAV4/eCW7INHkkz4/s200/img026.jpg
http:// www.vcharkarn.com/uploads/191/191403.jpg
http:// thaigoodview.com/files/u 7083/chikungunya1.jpg
http:// www.thaiselling.com/imageuser/2009-04-02/storageImage-20090420 110003-6682.jpg

ขอบคุณเวปไซต์  http://www.doa.go.th/pibai/pibai/n14/v_7-aug/rai.html
ขอขอบคุณ  คุณปรียานุช  สายสุพรรณ์




บริษัท แอนเทอร์ จำกัด
บริการกำจัดแมลง  ปลวก มด  หนู และแมลงสาบ
32/3 หมู่1 ซ.นนทบุรี 22 ถ.นนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี
โทรศัพท์:   0 2968 0711
โทรสาร:    0 2968 0712
อีเมล:       niran_anter@hotmail.com  
มือถือ   081-641-8183  นิรันดร์  ศิริอาภรณ์ธรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น